จองที่พัก

Booking.com

ไอเดียทำ "ห้องใต้ดิน"



ไอเดียทำห้องใต้ดิน 

ดูไว้เป็นไอเดียครับ............



















เครดิต:Creepiest Abandoned Places On Earth

เคดิต: กระทู้เด็ด Renovate and home decorate









ข้าราชการไทย เฮ!!!! กันทั่งประเทศ ผ่อนบ้านเดือนละ 4,800 บาท กับ“สินเชื่อบ้านธอส. เพื่อข้าราชการ”

ผ่อนบ้านเดือนละ 4,800 บาท กับ“สินเชื่อบ้านธอส. เพื่อข้าราชการ”

• 

ผ่อนบ้านเดือนละ 4,800 บาท กับ“สินเชื่อบ้านธอส. เพื่อข้าราชการ”
เพราะอยากให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ขณะนี้ ทางธอส.ได้ออกแพ็จเกจใหม่ “สินเชื่อบ้านข้าราชการ” มอบดอกเบี้ยต่ำคงที่นาน 4 ปี หรือเท่ากับ 3.25% ต่อปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนเดือนละ 4,800 บาท
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง ในฐานะกำกับดูแลธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ทางธนาคารได้เปิดให้บริการสินเชื่อใหม่เพื่อช่วยเหลือข้าราชการ บุคลากรทางการศึกษาและพนักงานรัฐวิสาหกิจกู้บ้านได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดในระบบธนาคาร ภายใต้ “โครงการบ้าน ธอส.เพื่อข้าราชการ” วงเงิน 30,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1-4 เท่ากับ MRR 3.5% ต่อปี หรือเท่ากับ 3.25% ต่อปี ซึ่งปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. เท่ากับ 6.75% ต่อปี ปีที่ 5 จนตลอดอายุสัญญากู้ คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-1% ต่อปี ซึ่งสามารถยืนเรื่องคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ตั้งแต่วันนี้ (2 ก.ค) จนถึง 30 ธันวาคม 2559
โดยวัตถุประสงค์นั้น เพื่อให้กู้ซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ไถ่ถอน ซื้อที่ดินเปล่าที่เป็นทรัพย์รอการขาย (NPA) ของ ธอส.พร้อมปลูกสร้าง กู้ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยและซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 100% ของราคาประเมิน หรือราคาซื้อขาย ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 30 ปี
ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ส่วนของอัตราดอกเบี้ยของโครงการนี้ จะส่งผลให้ผู้กู้ที่เข้าร่วมโครงการ กรณีกู้ในวงเงิน 1 ล้านบาท มีภาระผ่อนเงินค่างวดในช่วง 4 ปีแรก เดือนละ 4,800 บาท หลังจากปีที่ 5 จนสิ้นสุดสัญญาผ่อนส่งเดือนละ 6,100 บาทเท่านั้น และที่สำคัญ โครงการนี้ยังผ่อนปรนเงื่อนไข โดยจะรับรีไฟแนนซ์ลูกหนี้จากธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ด้วย และปล่อยกู้กรณีสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง โดยคาดว่า อัตราเงินเดือนของข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจโดยเฉลี่ยจะสามารถกู้เงินจากโครงการนี้ได้ประมาณคนละ 2 ล้านบาท แต่ธนาคารก็ไม่ได้กำหนดวงเงินกู้ขั้นสูงสุดไว้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ทางธอส.ได้มีการออกโครงการ ธอส.-กบข.เพื่อข้าราชการมาแล้ว 12 รุ่น สามารถปล่อยกู้ไปได้แล้ว 270,000 ราย ทำให้เหลือจำนวนข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข.ที่จะกู้เงินจากโครงการดังกล่าวไม่มากนัก ธอส.จึงตัดสินใจออกโครงการใหม่เพื่อเปิดโอกาสให้แก่ข้าราชการที่ไม่เป็นสมาชิก กบข.และพนักงานรัฐวิสาหกิจ
ทั้งนี้ กรณีลูกค้าที่ดีของ ธอส.ที่กู้เงินจากธนาคารมาเป็นระยะเวลา 5 ปีขึ้นไป ทางธอส.จะจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความดี โดยอาจจะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นกรณีพิเศษเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือมอบเงินสดเพื่อเป็นของขวัญแก่ลูกค้าที่ดีเหล่านี้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของธนาคาร สำหรับการปล่อยสินเชื่อในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ธอส.ปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 64,000 ล้านบาท จากเป้าหมายตลอดทั้งปี 17,043 ล้านบาท.
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี้
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com

คลังย้ำ...โครงการบ้านประชารัฐยังเดินหน้าต่อ!

คลังย้ำ...โครงการบ้านประชารัฐยังเดินหน้าต่อ!

Kanchana Paha • 
GHB
คลังยันเดินหน้าโครงการบ้านประชารัฐ หลังหารือสองแบงก์ใหญ่ ชี้ยังเร็วเกินไปที่จะเสนอ ครม.ปรับแก้รายละเอียดโครงการ
หลังจากที่เริ่มมีกระแสหนาหูถึงโครงการบ้านประชารัฐว่าส่อแววล่ม และอาจจะกลายเป็นฝันค้างสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยในการที่จะได้มีบ้านเป็นของตัวเอง เนื่องจากยอดปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินของรัฐทั้ง 3 แห่งที่ร่วมสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อโครงการดังกล่าว ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย อยู่ในระดับที่สูง แม้จะมีประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้ความสนใจเข้ายื่นขอสินเชื่อโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนมากก่อนหน้านี้ก็ตาม
ในขณะที่ฝั่งผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวต่างออกมาเรียกร้องให้รัฐขยายเพดานของราคาบ้านที่เข้าร่วมโครงการจากไม่เกิน 1.5 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 1.7 ล้านบาทเพื่อเป็นการขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น เพิ่มโอกาสในการขายได้ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่มีความสามารถในการซื้อบ้านราคา 1.5 ล้านบาทนั้นส่วนใหญ่มีปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนที่ค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้ถูกปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง ส่งผลกับยอดขายของผู้ประกอบการเหล่านั้น
ล่าสุด ผู้บริหารของธอส. ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า หลังจากที่ได้ร่วมหารือกับกระทรวงการคลังและธนาคารออมสินถึงประเด็นดังกล่าว ได้ข้อสรุปออกมาว่าโครงการบ้านประชารัฐจะยังเดินหน้าต่อไป โดยจะไม่มีการแก้ไขหรือปรับปรุงเกณฑ์ใดๆ ของมาตรการดังกล่าว ซึ่งกระทรวงการคลังให้เหตุผลว่าเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าโครงการมีปัญหา หรือจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการ
สำหรับโครงการบ้านประชารัฐเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่พยายามช่วยเหลือให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีโอกาสมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยให้สถาบันการเงินของรัฐทั้ง 3 แห่ง สนับสนุนโครงการดังกล่าวด้วยการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย และผู้ประกอบการที่ต้องการร่วมโครงการดังกล่าว
สำหรับวงเงินปล่อยสินเชื่อในโครงการบ้านประชารัฐนี้ ครม.อนุมัติให้แก่ ธอส.และธนาคารออมสินปล่อยกู้แห่งละ 20,000 ล้านบาท โดยแต่เดิม ธอส.ตั้งจะปล่อยกู้ได้หมดภายใน 3-4 เดือน แต่ปัจจุบัน ยอดปล่อยสินเชื่อของธนาคารอยู่ที่ 5,200 ราย วงเงิน 4,700 ล้านบาท ส่วนธนาคารออมสินอนุมัติสินเชื่อแล้ว 2,535 ราย วงเงิน 3,000 ล้านบาท
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

ประเภทสัญญานายหน้าและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์

ประเภทสัญญานายหน้าและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์

โพสต์เมื่อ 18 มกราคม 2559

สำหรับผู้ที่ต้องการขายอสังหาริมทรัพย์ให้ได้ในราคาที่เหมาะสม และในระยะเวลาที่ค่อนข้างเร็ว  การใช้บริการนายหน้าหรือตัวแทนอสังหาริมทรัพย์เป็นทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์ได้  อีกทั้งนายหน้าและตัวแทนฯ จะมีความเชี่ยวชาญในด้านกระบวนการขายอสังหาริมทรัพย์จึงสามารถให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการขายอสังหาริมทรัพย์ได้เป็นอย่างดี  และเพื่อให้การทำงานระหว่างตัวแทนฯ กับเจ้าของอสังหาฯ นั้นเป็นไปด้วยความราบรื่นจึงจำเป็นต้องมีการทำสัญญานายหน้าหรือตัวแทนอสังหาฯ ขึ้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันระหว่างสองฝ่ายในเรื่องหน้าที่ ระยะเวลาและผลตอบแทน  ซึ่งเราได้นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับสัญญานายหน้าและตัวแทนฯ ไปแล้วในครั้งก่อน  และในครั้งนี้ DDproperty อยากชวนคุณมาทำความรู้จักสัญญานายหน้าหรือตัวแทนฯ ประเภทต่างๆ  รวมไปถึงข้อดี-ข้อเสียของสัญญาแต่ละประเภท  เพื่อให้คุณสามารถเลือกสัญญาที่เหมาะสมและได้รับประโยชน์สูงสุดครับ
ประเภทสัญญานายหน้าและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์
สัญญานายหน้าและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สัญญานายหน้าและตัวแทนฯ แบบเปิด  และสัญญานายหน้าและตัวแทนฯ แบบปิด  ซึ่งสัญญาทั้งสองแบบนี้มีประเด็นความแตกต่างอยู่ที่บุคคลซึ่งจะมีสิทธิ์ขายหรือเป็นนายหน้าของอสังหาฯ นั้นๆ  โดยสัญญาฯ แบบปิดจะจำกัดสิทธิ์ผู้ที่ขายและเจาะจงนายหน้ามากกว่าสัญญาฯ แบบเปิด  
สัญญานายหน้าและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์แบบเปิด
ลักษณะของสัญญาประเภทนี้จะคล้ายๆ กับการบอกขายอสังหาฯ ต่อๆ กันไปโดยไม่จำกัด เพียงแต่มีการทำเป็นลายลักษณ์อักษรให้อยู่ในรูปสัญญาเท่านั้น ระบุผลตอบแทนของนายหน้า และตั้งราคาขาย  โดยสัญญาแบบเปิดนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าของอสังหาฯ หรือผู้ขาย สามารถใช้บริการนายหน้าหรือตัวแทนฯ ได้หลายรายพร้อมๆ กัน  โดยจะจ่ายค่าตอบแทนให้กับนายหน้าหรือตัวแทนที่เป็นผู้ชี้ช่องทางไปสู่ผู้ซื้อและเกิดการซื้อขายได้เพียงรายเดียวเท่านั้น  นอกจากนี้สัญญาฯ แบบเปิดยังเปิดโอกาสให้เจ้าของทรัพย์สามารถขายอสังหาฯ ด้วยตัวเองได้  และในกรณีที่เจ้าของขายอสังหาฯ ได้ด้วยตนเองก็ไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนแก่นายหน้าหรือตัวแทนฯ ใดๆ ทั้งสิ้น   
ข้อดีและข้อเสีย
สัญญานายหน้าและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์แบบเปิดมีข้อดีคือ สามารถใช้นายหน้าหรือตัวแทนฯ หลายๆ ราย ทำหน้าที่พร้อมๆ กันได้  ทำให้อสังหาริมทรัพย์กระจายออกไปอย่างกว้างขวางผ่านทางช่องทางการตลาดของนายหน้าแต่ละเจ้า ช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย และมีโอกาสที่จะขายได้เร็วขึ้น  ที่สำคัญคือไม่ปิดโอกาสที่เจ้าของอสังหาฯ จะขายด้วยตนเอง  อีกทั้งสัญญาฯ แบบเปิดมักไม่จำกัดระยะเวลาจึงไม่ต้องต่ออายุสัญญาหรือทำสัญญาใหม่บ่อยๆ 
ส่วนข้อเสียของสัญญานายหน้าและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์แบบเปิดคือ  ความพยายามในการขายของนายหน้าและตัวแทนฯ จะต่ำกว่า  เนื่องจากรับรู้ว่ามีการแข่งขันสูงจากนายหน้าและตัวแทนฯ รายอื่นๆ ที่เจ้าของเลือกใช้บริการอยู่พร้อมๆ กัน  ทำให้มีโอกาสที่ทรัพย์สินจะขายออกช้ากว่าเช่นกัน   อีกทั้งนายหน้าและตัวแทนไม่ชอบสัญญาที่ไม่เจาะจงเพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับค่าตอบแทนเต็มจำนวนเนื่องจากมีนายหน้าและตัวแทนฯ รายอื่นเข้ามาขอส่วนแบ่ง  อีกทั้งการไม่กำหนดระยะเวลาทำให้นายหน้าและตัวแทนไม่เร่งรีบ กระตือรือร้นที่จะผลักดันการขาย  และสุดท้ายคือการใช้นายหน้าหรือตัวแทนหลายคนทำให้เสี่ยงต่อการบวกส่วนต่างเพิ่มเติม และมีการบิดเบือนข้อมูลต่างๆ เกิดขึ้น  จนการขายขาดความน่าเชื่อถือและผู้ซื้อขาดความเชื่อมั่นที่จะซื้อในที่สุด
สัญญานายหน้าและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์แบบปิด
สัญญาฯ แบบปิดนี้ยังแบ่งออกเป็นประเภทย่อยๆ อีก 2 ประเภท ตามลักษณะการปิด ได้แก่ สัญญาฯ แบบปิดทุกราย และสัญญาฯ แบบปิดเฉพาะราย  
สัญญานายหน้าและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์แบบปิดทุกราย
สัญญาฯ แบบปิดทุกรายนั้นมีลักษณะที่เข้าใจได้ตามชื่อ คือเป็นการปิดการขายทุกๆ ทาง ยกเว้นการขายโดยนายหน้าหรือตัวแทนที่เจ้าของใช้บริการเพียงรายเดียวเท่านั้น หรือกล่าวคือจะมีนายหน้าหรือตัวแทนเพียงรายเดียวตามที่ระบุในสัญญาฯ เท่านั้นที่จะได้รับผลตอบแทนจากการขายอสังหาริมทรัพย์นี้  แต่การใช้นายหน้าเพียงเจ้าเดียวก็ไม่ทำให้การกระจายทรัพย์นั้นอยู่ในวงแคบกว่าสัญญาแบบเปิด เพราะนายหน้ายังสามารถส่งข้อมูลไปยังแวดวงนายหน้าด้วยกันได้เพื่อเข้าถึงผู้ซื้อที่มีความต้องการ  โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีการแย่งขายตัดหน้ากัน  ข้อสังเกตคือสัญญาฯ แบบปิดนี้มักจะมีการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดของสัญญาที่แน่นอนเอาไว้ด้วย
สัญญานายหน้าและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์แบบปิดเฉพาะราย
สัญญาฯ แบบปิดเฉพาะราย  การปิดเฉพาะรายนั้นหมายถึงผู้ซื้อ โดยนายหน้าหรือตัวแทนฯ ในสัญญาประเภทนี้จะระบุชื่อผู้ซื้อเอาไว้ โดยถ้าหากผู้ซื้อในรายชื่อนั้นตกลงซื้อไม่ว่าจะผ่านนายหน้าหรือไม่ก็ถือว่าเป็นการซื้อผ่านนายหน้า และเจ้าของทรัพย์จะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้แก่นายหน้า  สัญญาจะครอบคลุมเฉพาะผู้ซื้อที่อยู่ในรายชื่อเท่านั้น  ดังนั้นเจ้าของยังคงสามารถขายอสังหาฯ ให้กับบุคคลอื่นที่อยู่นอกรายชื่อได้โดยไม่ต้องเสียค่าตอบแทนให้นายหน้า  หรือสามารถทำสัญญานายหน้าแบบปิดเฉพาะรายกับนายหน้ารายอื่นที่มีรายชื่อผู้ซื้อไม่ตรงกันได้  ถ้าหากนายหน้าพบผู้ซื้อที่สนใจแต่อยู่นอกรายชื่อก็จะทำบันทึกรายชื่อแล้วแจ้งให้เจ้าของทรัพย์ทราบเพื่อระบุว่าผู้ซื้อรายดังกล่าวมาจากการขายของตน  
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดีของสัญญาฯ แบบปิดคือ ผู้ขายสามารถทราบได้อย่างชัดเจนว่าผู้ซื้อนั้นมากจากนายหน้าหรือตัวแทนรายไหน  โดยเฉพาะสัญญาฯ แบบปิดทุกราย ผู้ซื้อทุกคนย่อมมาจากนายหน้าหรือตัวแทนเพียงรายเดียวอย่างแน่นอน และสำหรับสัญญาฯ แบบปิดเฉพาะรายก็สามารถทราบได้จากการตรวจสอบรายชื่อของนายหน้าหรือตัวแทนแต่ละเจ้า  ขณะเดียวกันเจ้าของก็ไม่เสียโอกาสที่จะขายเองให้กับบุคคลอื่นที่อยู่นอกเหนือรายชื่อของนายหน้าและตัวแทนอีกด้วย  การทำสัญญาฯ แบบปิดทำให้ตัวแทนฯ มีแรงจูงใจที่จะขายมากขึ้น เพราะไม่ต้องกังวัลเรื่องการแข่งขันระหว่างนายหน้าด้วยกันเอง นายหน้าจึงชอบสัญญาฯ แบบปิดมากกว่าสัญญาฯ แบบเปิด  ขณะเดียวกันนายหน้าจะกระตือรือร้นในการขายเนื่องจากเป็นสัญญาที่ระบุระยะเวลาสิ้นสุด  จึงมีโอกาสที่จะช่วยเพิ่มความเร็วในการขายให้ไวขึ้น  อีกทั้งข้อมูลการขายที่ออกไปโดยนายหน้าก็สามารถตรวจได้เพราะใช้บริการนายหน้าเพียงไม่กี่รายเท่านั้น  
ส่วนข้อเสียคือการขาดการแข่งขันกันก็อาจทำให้ข้อมูลการขายกระจายอยู่ในวงแคบๆ ตามเครือข่ายของนายหน้าที่ใช้บริการ อาจเป็นการลดโอกาสที่อสังหาฯ จะขายออกลงเช่นกัน       
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ นักเขียนออนไลน์ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chetapol@ddproperty.com

ปิดถนน“ราชวิถี - แยกตึกชัย 1”เพื่อนำสายไฟลงดิน (เริ่มศุกร์นี้ 1ก.ค)

ปิดถนน“ราชวิถี - แยกตึกชัย 1”เพื่อนำสายไฟลงดิน (เริ่มศุกร์นี้ 1ก.ค)

• 
ปิดถนน“ราชวิถี - แยกตึกชัย 1”เพื่อนำสายไฟลงดิน (เริ่มศุกร์นี้ 1ก.ค)
เตรียมตัวกันนะ ! 1ก.ค.-15ส.ค.นี้ ปิดถนนราชวิถีจากอนุสาวรีย์-แยกตึกชัย 1 ช่องทาง ตั้งแต่ 4ทุ่ม – ตี 5 และเสาร์-อาทิตย์ตลอดทั้งวัน เพื่อทำการนำสายไฟลงดิน
ด้านพ.ต.ท.บวรภพ สุนทรเรขา รองผกก.จร.สน.พญาไท กล่าวว่า การไฟฟ้านครหลวงจะดำเนินการเอาสายไฟฟ้าลงดินบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-แยก ตึกชัยระยะประมาณ 400 เมตร โดยจะดำเนินการก่อสร้างบ่อพักและบ่อร้อยสายไฟฟ้า ซึ่งทางผู้รับเหมาจะเริ่มเข้าพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 59 เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 15 ส.ค. 59 ระยะเวลาในการดำเนินการ 43 วัน โดยในการการก่อสร้างจำเป็นจะต้องปิดการจราจร 1 ช่องทางชิดขอบทางเท้า 1 จราจรทั้งขาเข้าและขาออก ซึ่งช่วงเวลาการปิดการจราจรจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ซึ่งตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์จะปิดการจราจร 1 ช่องตั้งแต่เวลา 22.00น.- 05.00น. เพื่อผู้รับเหมาจะได้ทำงานอย่างสะดวก ส่วนช่วงกลางวันตั้งแต่เวลา 09.00น.-15.00น. ผู้รับเหมาจะปิดผิวการจราจรได้เพียง 40 ซม.เท่านั้นและจะเปิดผิวการจราจรให้รถสามารถวิ่งผ่านได้เพื่อลดผลกระทบด้าน การจราจร ด้านวันเสาร์-อาทิตย์ทางสน.อนุญาตให้ผู้รับเหมาทำงานได้ตลอด 24 ชม. เนื่องจากวันหยุดปริมาณการจราจรบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไม่หนาแน่นมากนัก
อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางสน.ได้เสนอไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เพื่อให้ดำเนินการออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรชั่วคราวในระหว่างที่มีการทำ งานของผู้รับเหมา เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทาง สำหรับผลกระทบด้านการจราจรเนื่องจากการปิดล้อมผิวการจราจรในช่วงกลางคืนทาง สน.คาดว่าจะไม่กระทบผลการจราจรมากหนัก เพราะช่วงกลางคืนปริมาณการจราจรในถนนราชวิถีทั้งขาเข้าและขาออกมีปริมาณน้อย ส่วนช่วงวันเสาร์-อาทิตย์การส่งมีผลกระทบต่อการจราจรบ้าง แนะประชาชนที่ใช้เส้นทางขับรถด้วยความระวัง และหากไม่มีเหตุจำเป็นควรเลี่ยงเส้นทางเพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี้
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com

ใครคิดจะขายบ้าน,ที่ดิน ........ ต้องอ่าน!!!!!

ใครคิดจะขายบ้าน,ที่ดิน ........ ต้องอ่าน!!!!!





''นายหน้า'' !!!! (ตกใจ) 


       เมื่อได้ยินคำนี้ขึ้นมา บางคนถึงกับผวา เบะปาก เหลือบตามองฟ้าแล้วหันหน้าหนี @o@  เพราะด้วยวีรกรรมอันแสนจะโดดเด่น ของเหล่ามิจฉาชีพ ที่แฝงตัวแอบอ้าง ติดยศตัวเองเป็น ''นายหน้า''
     
เที่ยวประกาศหลอกชาวบ้านตาดำๆ ยัน คุณนายหน้าใส ฝรั่งตาน้ำขาว  ให้ได้เดือดร้อนวุ่นวาย
กันมานักต่อนัก

         แต่ ''นายหน้า'' ถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างมาก ในการจะซื้อ-จะขายอสังหาริมทรัพย์  เพราะอาจด้วยศักยภาพ ความสามารถที่มีอยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นด้านการขาย การตลาด การเจรจาต่อรอง ด้านจิตวิทยา หน้าด้านหน้าทน อึด ใจเย็น  สู้ชีวิต ทำให้คนที่ทำอาชีพนายหน้า มีศักยภาพมากกว่าคนทั่วไป

      จะเห็นได้ว่า กว่านายหน้าแต่ละท่าน แต่ละคนจะเข้ามาทำอาชีพนี้ได้นั้น จำเป็นที่จะต้องผ่านการฝึกฝนเรียนรู้  พัฒนาความสามารถ ลองผิดลองถูก ผิดหวังและสมหวัง เคี้ยวกำ มาอย่างหนัก เพื่องานขายนี้โดยเฉพาะ          

      จึงไม่ต้องแปลกใจ  เมื่อคิดที่จะขายบ้านหรือที่ดินเมื่อใด การใช้บริการนายหน้า เป็นการเลือกที่ ''ใช่ '' และถูกต้องที่สุด เพราะนายหน้าจะเปรียบเสมือนเป็น........

-กระบอกเสียงให้เจ้าของบ้านหรือเจ้าของที่ดิน
-เป็นผู้จัดการส่วนตัว จัดการงานเอกสาร บางทีวิ่งหาแบงค์ให้ด้วย
-เป็นบอดี้การ์ดปกกันเหล่ามิจฉาชีพ !!! นายหน้าส่วนตัวจะสแกนให้เรียบร้อย '' นั้นของปลอม ''ครับนาย
-เป็นกันชนระหว่างคนซื้อกับคนขายในเงื่อนไขข้อตกลง เรื่องบางเรื่ิองคุยกันตรงๆ ใช่ว่าจะตกลงได้...จริงมั้ยครับ........

   

 ฉนั้นการเลือกใช้นายหน้าพิจารณากันให้ดีๆ......

 -เลือกคนที่พูดน้อยทำเยอะ
- เลือกคนที่คุยเข้าใจง่ายๆ
-เลือกคนที่มีความรับผิดชอบ
-เลือกคนที่ไม่ซับซ้อน
-เลือกคนที่ไม่หยุบหยิม
-เลือมองคนที่เข้าใจโลก

 เพราะนายหน้าก็จะเลือกเจ้าของบ้าน,ที่ดิน ในลักษณะเดียวเหมือนๆกัน
 
     การขายอสังหาริมทรัพย์นั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่เกินสามารถ ถ้าทุกคนตั้งอยู่บนความเห็นอกเห็นใจกัน ยืดหยุ่นต่อกัน ให้เกียรติกันและกัน ที่สำคัญ ชื่อสัตย์ต่อกัน เท่านี้งานขายก็จะลงเอยด้วยดีและมีความสุขทั้ง ผู้ซื้อ    ผู้ขาย   และตัว  >>>นายหน้า<<<เอง..........




ถ้าคิดจะขายบ้าน,ที่ดิน  การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดก็คือ 
''การลงทุนใช้บริการนายหน้า''

                                                by   Buyproperty.....อยู่อย่างเสือ










ซ่อมแซมบ้านถ้าไม่เข้าข่ายดัดแปลง $$$ ทำได้ทันทีไม่ต้องยื่นขออนุญาต




ตามกฎหมายอาคารชุดนั้น “ดัดแปลง” หมายถึง การเปลี่ยนแปลงต่อเติม เพิ่ม ลด หรือขยายซึ่งลักษณะขอบเขต แบบ รูปทรง สัดส่วน น้ำหนัก เนื้อที่ของโครงสร้างอาคารหรือส่วนต่างๆ ของอาคาร ซึ่งได้ก่อสร้างไว้แล้วให้ผิดไปจากเดิม ดังนั้นไม่ว่าจะต่อเติมอาคารในลักษณะใด ก็คือการดัดแปลงตามกฎหมายนั่นเอง

บางคนก็อยากมีอะไรใหม่ๆ ให้กับชีวิต สำหรับคนที่คิดจะลงทุนต่อเติมหรือดัดแปลงบ้าน แม้ว่าตอนนี้ไอเดีย แบบ สี อาจพร้อมแล้ว แต่ก่อนจะลงมือทำจริงๆ ขอเบรคสักนิดด้วยข้อคิดจากกูรูทางด้านกฎหมาย ที่จะมาแนะนำขั้นตอนที่ถูกต้องในการต่อเติมบ้าน อาคารในแบบที่ไม่ต้องโดนฟ้อง หรือข้อร้องให้รื้อออกในภายหลัง 

สำหรับบ้านที่คุณพักอาศัยอยู่นี้จะถือเป็นอาคารตามกฎหมายหรือเปล่า ผมขอฟันธงเลยว่า...ถูกต้องแล้วครับ บ้านถือเป็นอาคารตามกฎหมายควบคุมอาคาร เนื่องจากในกฎหมายควบคุมอาคาร คำว่า “อาคาร” หมายถึง ตึก บ้าน เรือน โรง ร้าน แพ คลังสินค้า สำนักงานและสิ่งที่สร้างขึ้นเพื่ออย่างอื่น ซึ่งบุคคลอาจเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้ นอกจากนี้ ยังรวมความไปถึงอัฒจันทร์ หรือสิ่งที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ชุมนุมของประชาชน รวมทั้งป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งป้ายด้วย
เมื่อมีความประสงค์จะดัดแปลงบ้านแล้ว คุณจะต้องมีใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นถึงการดัดแปลงบ้านของคุณทุกครั้ง โดยจะต้องแจ้งชื่อของผู้รับผิดชอบและผู้ควบคุมงานด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรม พร้อมทั้งแผนผังบริเวณ และแบบแปลนของบ้านที่จะดำเนินการดัดแปลง
หลังจากได้รับแจ้งแล้ว เจ้าพนักงานจะตรวจสอบว่าการดัดแปลงดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายควบคุมอาคารหรือไม่ ดังนั้น ถ้าคุณได้ขอใบอนุญาตดัดแปลงถูกต้องโดยไม่มีการท้วงติงจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นแล้ว คุณก็สามารถทำการดัดแปลงบ้านได้

 

ซ่อมแซมบ้านถ้าไม่เข้าข่ายดัดแปลง ทำได้ทันทีไม่ต้องยื่นขออนุญาต

เพื่อให้เข้าใจขอเขียนอธิบายเป็นความต้องการที่เจ้าของบ้านสามารถทำได้โดยไม่ต้องยื่นขออนุญาต ดังนี้
1. หากต้องการเปลี่ยนโครงสร้างอาคาร (เช่น เสา, คาน, ตง และพื้น)
ที่ ไม่ได้ทำด้วย คอนกรีตเสริมเหล็ก คอนกรีตอัดแรง หรือเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ และใช้วัสดุชนิดเดิม ขนาดเท่าเดิม จำนวนเท่าเดิม สามารถทำได้โดยไม่ต้องยื่นขออนุญาต

เช่น การเปลี่ยนคานไม้ที่ผุ หรือ แอ่น โดยยังใช้เป็นคานไม้เช่นเดิม

2. หากต้องการเปลี่ยนส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้างอาคาร (เช่น เปลี่ยนผนัง ฝา ฝ้าเพดาน ประตู หน้าต่าง ฯลฯ)
โดยใช้วัสดุของเดิม และสิ่งที่เปลี่ยนนั้นไม่หนักเพิ่มขึ้นมากกว่าของเดิมร้อยละสิบ สามารถทำได้โดยไม่ต้องยื่นขออนุญาต

เช่น ผนังเดิมที่จะเปลี่ยนออกไปหนัก 100 กิโลกรัม ผนังใหม่ที่มาแทนและวัสดุเหมือนเดิม ต้องหนักไม่เกิน 110 กิโลกรัม

3. หากต้องการปรับเปลี่ยน ต่อเติม รูปทรง ขอบเขต สัดส่วน ของส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้างอาคาร
แล้วไม่ได้ทำให้น้ำหนักตรงจุดนั้นเพิ่มขึ้นมากกว่าของเดิมร้อยละสิบ สามารถทำได้โดยไม่ต้องยื่นขออนุญาต

เช่น การติดป้ายเล็กๆ ยื่นออกมาจากผนังอาคาร
4. หากต้องการลดพื้นที่บ้าน หรือเพิ่มพื้นที่บ้าน 
รวมกันแล้วไม่เกิน 5 ตารางเมตร และตรงพื้นที่ที่ลดหรือเพิ่มนั้นไม่ได้ทำให้ต้องเพิ่มเสาหรือคาน สามารถทำได้โดยไม่ต้องยื่นขออนุญาต

เช่น ต่อเติมระเบียงยื่นออกไป

5. หากต้องการลดหรือเพิ่มพื้นที่หลังคาบ้าน รวมกันไม่เกิน 5 ตารางเมตร
โดยไม่มีการเพิ่มเสาหรือคาน สามารถทำได้โดยไม่ต้องยื่นขออนุญาต

เช่น ตัดหลังคาเว้าออกเล็กน้อย เพื่อหลบกิ่งของต้นไม้ที่โตจนยื่นมาชน

6. หากต้องการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าบนหลังคาบ้าน ที่ขนาดพื้นที่ติดตั้งไม่เกิน 160 ตารางเมตร และมีน้ำหนักรวมกันไม่เกิน 20 กิโลกรัมต่อตารางเมตร 
สามารถทำได้โดยไม่ต้องยื่นขออนุญาตดัดแปลง แต่ทั้งนี้ต้องมีวิศวกรโยธาตรวจและรับรองความมั่นคงแข็งแรง

ทั้ง 6 ข้อนี้ กฎหมายควบคุมอาคารได้ระบุเงื่อนไขไว้ว่า สิ่งที่ทำไปนั้นต้องไม่ผิดกฎหมายควบคุมอาคารในเรื่องอื่นๆ เช่น ต้องไม่เกินระยะร่นอาคารที่กฎหมายกำหนด ต้องไม่ทำให้ที่ว่างน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องไม่มีเปิดช่องเปิดที่ผนังถ้าผนังนั้นห่างน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด ฯลฯ

สังเกตหรือไม่ว่า กฎหมายจะเน้นไปในเรื่องความแข็งแรง ปลอดภัย การรับน้ำหนักของโครงสร้างอาคาร ไม่ว่าจะเป็นการระบุให้ใช้วัสดุของเดิม และต้องไม่เพิ่มน้ำหนักมากเกินร้อยละสิบ ไม่มีการลดหรือเพิ่ม เสา คานของอาคาร และต้องไม่เปลี่ยนโครงสร้างอาคารที่ทำด้วยคอนกรีต เหล็กรูปพรรณ

การที่เขียนว่า ตามกฎหมายควบคุมอาคารสิ่งเหล่านั้นสามารถทำได้ไม่ต้องยื่นขออนุญาต ไม่ได้หมายความว่าทุกเรื่องนั้นจะลงมือทำได้ทันทีโดยไม่มีการตรวจสอบใดๆ ก่อน

จึงขอแนะนำว่าเพื่อความปลอดภัยก็ควรปรึกษาผู้รู้ก่อนลงมือทำ โดยเฉพาะถ้าดูแล้วสิ่งที่จะทำนั้นเกี่ยวข้องกับโครงสร้าง หรือดูแล้วไม่แน่ใจเกรงว่าอาจจะมีอันตราย ให้ถือหลักปลอดภัยไว้ก่อนเป็นดีที่สุด

(หมายเหตุ : ในกฎกระทรวงฉบับที่ 11 พ.ศ. 2528 ยังได้กำหนดว่าการกระทำที่ถือว่าเป็นการ “รื้อถอน” ซึ่งต้องยื่นขออนุญาตก่อนลงมือทำไว้ด้วย หากท่านใดต้องการทราบก็สามารถดูรายละเอียดได้ในกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว)
เคดิต: http://www.scgbuildingmaterials.com
        :  สมศักดิ์ เฉลิมอิสระชัย เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอสังหาริมทรัพย์ 

วิธีขายบ้าน ขายที่ดิน ขายอสังหาฯ ให้ได้เร็ว...แถมได้ราคาดี !!!!!




ขายบ้าน ขายที่ดิน ขายอสังหาฯ ให้ได้เร็ว...แถมได้ราคาดี
          บทความในครั้งนี้อาจจะเปิดเรื่องด้วยรูปแบบที่แปลกไปจากปกติ และยิ่งเมื่อพิจารณาจากแวดวงอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังร้อนแรงคึกคักส่งท้ายเดือนธันวาคม 2558 ไปพร้อมกับนโยบายกระตุ้นจากทางภาครัฐแล้วนั้น คำถามจากทางเราว่าคุณกำลัง ‘ขาย’ อสังหาริมทรัพย์นั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่สมควรจะถามเท่าใด (ก็แน่ล่ะ ถ้าคุณไม่ขาย ก็คงไม่มาวุ่นวายอะไรกับกระบวนการเหล่านี้แน่ๆ…)
แต่ภายใต้สภาพตลาดอสังหาฯ ที่ร้อนแรง ความต้องการพุ่งทะยานสูงสุดเช่นนี้เอง ที่หลายครั้ง การขายก็ไม่อาจประสบผลสำเร็จได้ดังใจ หลายคราวทุกอย่างดูลงตัว แต่ก็จบลงด้วยการบอกปัดปฏิเสธ คุณอาจจะรู้สึกว่าอสังหาฯ ที่มีอยู่ในมือนั้นไม่ดีพอ หรือมีคุณสมบัติไม่โดดเด่นเตะตาผู้ซื้อ
แต่บางที … มันอาจจะเป็นอะไรที่มากไปกว่าคุณสมบัติขั้นมูลฐานของอสังหาฯ นั้นๆ ก็เป็นได้
ถ้าหากจะถามว่าผู้คนต้องการอะไรจากการซื้อสินทรัพย์อสังหาฯ โดยทั่วไปนั้น คำตอบก็มักจะลงเอยในเรื่องที่เราคุ้นเคยกันอยู่โดยตลอด ตั้งแต่ทำเลดีมีศักยภาพ ไม่ห่างไกลความเจริญและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ราคาจับต้องได้ น่าสนใจในแง่การลงทุน จนถึงโครงสร้างและการออกแบบที่ดึงดูดสวยงามน่าสนใจ (โดยเฉพาะโครงการจากผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ๆ) เหล่านี้เป็นข้อพื้นฐานที่พบเจอโดยทั่วไป


เช่นนั้น ถ้าคุณสมบัติพื้นฐานคือสิ่งที่เป็นเพียงเครื่องป้องกันไม่ให้อสังหาฯ ของคุณถูกเขี่ยทิ้งในการช็อปปิ้งจากผู้ซื้อแล้วนั้น คุณอาจจะต้องใช้แรงผลักเพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อย คิดให้ไกลจากการนำเสนอขายแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ให้ลองจินตนาการตัวเองในฐานะผู้ซื้อ ด้วยคำถามง่ายๆ ดังต่อไปนี้
            -สินทรัพย์ชนิดนี้ มีจุดเด่นหลักจริงๆ ที่ใด?
            -กลุ่มเป้าหมายที่น่าจะสนใจสินทรัพย์ชนิดนี้ คือใคร?
            -คุณสมบัติเด่นที่ว่ามานั้น ตัวคุณเองเชื่อมั่นอย่างสนิทใจหรือไม่ และ…
            -ถ้าคุณเป็นผู้ซื้อจริงๆ คุณอยากจะ ‘ได้ยิน’ อะไรจากผู้ขายอสังหาริมทรัพย์นี้?
การตั้งคำถามเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า จะช่วยให้คุณสามารถประเมินได้ว่า จะนำเสนออะไรให้กับผู้ซื้ออสังหาฯ (ไม่ว่าคุณจะทำการประกาศขายด้วยตนเอง หรือเขียน Description ผ่านเว็บไซต์ก็ตาม) และสามารถนำเสนอสิ่งที่พวกเขาต้องการมันจริงๆ ได้อย่างตรงจุด เพราะจำไว้ว่า ในการขาย คุณสมบัติที่ไม่ตอบโจทย์ อาจจะมีค่าไม่ต่างอะไรกับกำแพงที่ค่อยๆ บั่นทอนการตัดสินใจของผู้ซื้อให้ลดน้อยลงไปอย่างไม่สมควร (หรือร้ายแรงที่สุดคือ ทำให้คุณถูกมองว่ามีความต้องการที่จะขายมากจนเกินกว่าเหตุ…)


 6  ขั้นตอน ขายบ้าน ขายอสังหา ให้ได้เร็ว...แถมได้ราคาดี

ขั้นตอนที่ 1  ทำความสะอาด  ทาสีและซ่อมแซม  เป็นขั้นตอนสำคัญอันดับแรกที่จะต้องมีการดำเนินการก่อนกาขายบ้านเสมอ  วัตถุประสงค์ของการดำเนินการก็เพื่อเป็นการปรับปรุงตกแต่งภาพลักษณ์ของบ้านให้มีความน่าสนใจ  และดึงดูดใจมากขึ้น  เพื่อให้บ้านพร้อมสำหรับการนำเสนอออกขายนั่นเองปกติ  ไม่ว่าใครก็ตามล้วนชอบบ้านที่ดูแลใหม่  สดใส  และมีชีวิตชีวา  ดังนั้น  หากเราสามารถทำให้บ้านสนองต่อความชื่นชอบของคนทั่วไปได้  ก็จะเท่ากับเป็นการขยายโอกาสในการขายบ้านให้เพิ่มมากขึ้นได้เป็นอย่างดี จะทำให้ราคาขายบ้านของท่านลดลงมากว่า 2 เท่า  ของต้นทุนที่เสียไปยังไม่รวมต้นทุนค่าเสียโอกาสจากการที่บ้านขายไม่ออกอีกไม่รู้เท่าไร
ขั้นตอนที่ 2  ประเมินราคาบ้าน  เมื่อได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้านให้กลายเป็นสินค้าที่ต้องตาต้องใจของผู้พบเห็นได้แล้ว  ขั้นตอนสำคัญต่อมาก็คือการกำหนดราคาขายบ้านให้เหมาะสม แม่บ้านของท่าน  จะมีคุณสมบัติที่ดีเด่นเพียงใดก็ตามแต่การขายบ้านจะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับการกำหนดราคาขายเป็นสำคัญ  ถ้าราคากำหนดไว้ต่ำเกินไป แม้จะช่วยให้ขายบ้านได้เร็วแต่ท่านก็จะสูญเสียรายได้ส่วนที่ท่านพึงได้รับไป  แต่หากตั้งราคาขายสูงเกินไปผลที่ตามมาก็จะทำให้บ้านขายไม่ออกสักที  ดังนั้น  จุดที่เหมาะสมที่สุดก็คือจะต้องตั้งราคาขายให้สอดคล้องกับราคาตลาด ที่แท้จริงของบ้านจึงจะดี พูดง่าย ๆ  ก็คือราคาตลาดแท้จริงมีความจำเป็นมากต่อการใช้ตั้งราคาขายบ้าน  ดังนั้นขั้นตอนสำคัญในการขายบ้านอีกขั้นตอนหนึ่งที่ต้องทำก็คือ  การจ้างผู้ประเมินราคามืออาชีพ ที่มีความน่าเชื่อถือมาช่วยในการประเมิน  หาราคาตลาดแท้จริงให้กับผู้ขายได้  เพื่อนำมาใช้ตั้งราคาขายที่เหมาะสมต่อไป ผู้ขายบ้านยังสามารถใช้รายงานการประเมินราคาที่ได้จากผู้ประเมินราคานั้นมาใช้อ้างอิงประกอบการขายบ้านได้เป็นอย่างดี  ซึ่งจะช่วยให้ท่านมีความมั่นใจในการ ขายบ้าน เพิ่มขึ้นได้อย่างน่าประหลาดใจ
 ขั้นตอนที่ 3  ปรึกษาและขอคำแนะนำจากนักกฎหมาย  ขั้นตอนนี้มีความสำคัญเนื่องจากจำนวนเงินในการซื้อขายบ้านสูงมากและขั้นตอนการดำเนินการกว่าจะได้เงินค่าขายบ้านจากลูกค้าล้วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานตามกฎหมายทั้งสิ้น  ดังนั้นเพื่อช่วยให้การซื้อขายเป็นไปอย่างรัดกุมจะต้องปรึกษาขอคำแนะนำจากนักกฎหมายทุกครั้งกอ่นจะดำเนินการในเรื่องเหล่านี้  ซึ่งนักกฎหมายในที่นี้อาจหมายถึงเพื่อน หรือคนรู้จักที่มีความรู้ทางกฎหมายก็ได้เคล็ดลับสำคัญในเรื่องนี้ก็คือ  ทุกครั้งที่มีการทำสัญญาต่าง ๆ  ระหว่างท่านกับผู้ซื้อจะต้องทำอย่างเป็นทางการหรือเป็นกิจจะลักษณะ  และมีผู้รู้ทางกฎหมายอยู่ด้วยเสมอ  เพราะนอกจากะเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงให้กับตัวท่านได้ทางหนึ่งแล้ว  ยังช่วยให้การซื้อขายมีความน่าเชื่อถือในสายตาผู้ซื้อได้ด้วย 
ขั้นตอนที่ 4  จัดเตรียมสัญญาการซื้อขายบ้านไว้ให้พร้อม  ทุกครั้งที่มีการวางแผนที่จะ ขายบ้าน ท่านจะต้องมีการเตรียมสัญญาและใบเสร็จต่าง ๆ ที่จำเป็นไว้ให้พร้อม เมื่อไรก็ตามที่มีคสามจำเป็นต้องทำสัญญากัน  จะสามารถกระทำได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาในการจัดหา
ขั้นตอนที่ 5  กระตุ้นการขาย  ขั้นตอนนี้จะเกี่ยวข้องกับการลงโฆษณาขายบ้านในส่วนต่าง ๆ  เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขายบ้านขึ้น  ต้องเน้นเรื่องสื่อที่เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อบ้านจริง ๆ  และควรพุ่งเป้าโฆษณาไปยังบริษัทขนาดใหญ่  ที่อยู่กล้บ้านเพื่อจัดลูกค้ากลุ่มพนักงานใหม่  และกำลังหาบ้านอยู่ 
ขั้นตอนที่ 6  การทำการขายบ้าน  ในวันที่นัดลูกค้าเพื่อเปิดให้ดูบ้าน  เทคนิคในการขายอันหนึ่งก็คือ  จะทำสรุปสาระสำคัญของบ้านที่ขายในตลาดแผ่นเดียวแจกให้กับลูกค้าที่มาดูบ้านทุกราย  เพื่อเป็นการลุ้นและตอกย้ำจุดน่าสนใจของบ้าน ให้กับลูกค้า  
ดังนั้น ถ้าหากคุณมีอสังหาริมทรัพย์เช่นที่ดินราคาแปลงสวย สิ่งที่คุณจะต้องนำเสนอให้กับผู้ซื้อนั้น ไม่ได้เป็นเพียงคุณสมบัติพื้นฐาน หรือประวัติความเป็นมา หากแต่ต้องบอกให้ได้ว่า ถ้าเขา/เธอ ตัดสินใจซื้อที่ดินแห่งนั้น เขาจะได้ผลตอบแทนอะไรกลับไปในปลายทาง
Tag : ขายอสังหาฯ, ราคาที่ดิน
แหล่งที่มา :  อ.อนุชา กุลวิสุทธิ์
                   http://www.dotproperty.co.th/

เล่าประสบการณ์!!! การประมูล ป๊อปปูล่า คอนโด!! การประมูลบ้านและคอนโดฯ

เล่าประสบการณ์การประมูลป๊อปปูล่าคอนโดที่บสก

กระทู้สนทนา
เล่าประสบการณ์ การประมูลป๊อปปูล่าคอนโดที่บสก

สวัสดีค่ะ วันนี้หมีพูจะมาเล่าประสบการณ์การไปประมูลห้องป๊อปของบสกค่ะ เป็นอะไรที่แปลกใจ ตกใจ ไม่คาดคิด และไม่อยากจะเชื่อ แต่จะบอกว่า มีคนสนใจเข้าประมูลป๊อปปูล่าคอนโด เมืองทองธานี เยอะจริงๆค่ะ แต่แต่ละคนนี้ ประมูลกัน 5-10 ห้องเลยทีเดียว มีรายหนึ่งประมูลถึง 30 ห้อง!!!  โอ้มายก๊อด อะไรมันจะฮ๊อตฮิตปานนี้ หมีพูก็เลยจะนำมาเล่าให้อ่านกันค่ะ

เริ่มเมื่อประมาณมกรา หมีพูก็เห็นประกาศขายป๊อปปูล่าคอนโดของบสก ค่ะ เห็นราคาคิดว่าพอซื้อได้ (น้อยกว่าราคาตั้งต้นประมูลซะอีก 555)

รายการนี้คือรายการที่หมีพูสนใจค่ะ ราคาที่หมีพูเห็นเมื่อประมาณมกราค่ะ


รีบโทรศัพท์ไปคุยกับบสกทันทีค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่า ราคาที่เห็นยังจะมีการปรับเปลี่ยนอยู่ อะโอเค รอต่อไป จากนั้นประมาณ ปลายกุมภา ราคาปรับเพิ่มค่ะ เป็นดังภาพ



หมีพูก็โทรไปอีก อ๊ะ ขึ้นราคา หมีพูก็ยังรับได้ สนใจจะซื้อละ เจ้าหน้าที่ก็บอก ยังไม่ขายค่ะ เพราะมีคนสนใจเยอะมาก จะให้ประมูลแทนค่ะ แต่วันประมูลยังไม่ออก ก็รอต่อไป จากนั้นประมาณ ต้นมีนาคม ก็ได้ทราบวันประมูลว่าเป็นวันนี้ค่ะ 30/3/59 พอเข้าไปดูรายการห้องที่จะให้ทำการประมูล ก็พบว่า ห้องที่หมีพูเล็งไว้ หายไปจากระบบแล้วอะ งง! หายไปไหน หมีพูก็โทรสอบถามเจ้าหน้าที่เช่นเดิม ถามว่า ที่จะนำออกมาประมูล ประมูลครบทุกห้องไหม เจ้าหน้าที่ก็บอกครบครับ พอหมีพูระบุเลขห้องว่า ห้องนี้หายไปไหน เจ้าหน้าที่ก็ร้องออ บอกบสกจะเก็บไว้รีโนเวตแล้วนำกลับมาขายใหม่ครับ (เดี๋ยวหมีพูจะรอชมค่ะ ราคาน่าจะแรงพอควร) เลยเอารายการโบรชัวที่บสกประกาศขายไว้มาให้ดูกันค่ะ




สำหรับการประมูล เจ้าหน้าที่แจ้งก่อนว่าให้เตรียมเอกสาร คือ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และแคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย บสก 10,000 บาท/1 ห้องที่ต้องการประมูล คือถ้าเราต้องการประมูลหลายห้อง ก็ต้องเตรียมเช็คมาเท่ากับจำนวนห้องที่ประมูลค่ะ ในการประมูลเค้าจะให้เอกสารเรามากรอกว่า เราจะเอาห้องไหน เสนอราคาซื้อเท่าไร โดยเราจะต้องใส่ราคาไม่น้อยกว่าราคาเริ่มต้นในการประมูลค่ะ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ถ้าเราประมูลได้ เราจะต้องโอนภายใน 30 วันนับจากวันอนุมัติขาย (วันอนุมัติประมาณ 2 อาทิตย์หลังจากทราบผลประมูลแล้ว) ถ้าเราไม่โอนก็จะถูกยึดเช็คเงินมัดจำ 10,000 บาทค่ะ แต่ถ้าเราประมูลไม่ได้ บสกก็จะคืนเช็คให้เราค่ะ

คุยกับคุณสามี เนื่องจากงปเรามีไม่มาก เพียงพอแค่ซื้อเพียงห้องเดียวค่ะ หมีพูก็เลยตกลงว่า เราจะซื้อห้องใหญ่โซน C ค่ะ ห้องที่มองไว้คือ C7 ชั้น 3 ห้อง 38 ตรม ราคาประมูลเริ่มต้น 507,000 บาท เมื่อเข้าใจกติกาดีแล้ว วันนี้เราก็เตรียมตัวลางานค่ะ ออกบ้าน 10:30 (บ้านอยู่ปทุมธานี บสกอยู่ใกล้ๆกับบีทีเอส สุรศักดิ์) เอารถไปจอดที่ บิ๊กซี สะพานควายค่ะ รับประทานอาหารกลางวัน แล้วก็ขึ้นบีทีเอส ไปสุรศักดิ์ ไปถึง บสกประมาณ 13:30 ค่ะ เจ้าหน้าที่รับลงทะเบียนกันแล้วค่ะ พอเข้าไปเซ็นชื่อ โอ้ คนมาลงทะเบียนประมาณ 30 กว่าคนได้ล่ะ ทำไมมากันเยอะจัง

อะไม่เป็นไร ไหนๆก็มาล่ะ ก็เข้าร่วมประมูลอยู่แล้ว เอาเอกสารไปยื่นค่ะ เจ้าหน้าที่ถามว่าจะเอาห้องไหน เราก็บอกเลขที่ห้องไป เค้าก็ให้เอกสารมาให้กรอก พร้อมซองที่จ่าหน้าหมายเลขห้องที่เราจะซื้อ เอกสารที่ให้กรอก ก็คือราคาเสนอซื้อ เมื่อกรอกเสร็จ มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เอาเอกสารรับเช็คคืนกรณีเราประมูลไม่ได้ แล้วให้ซองคืนเรา เพื่อเอาไปหย่อนในกล่องที่เค้าเตรียมให้ หย่อนเสร็จก็มานั่งรอเวลาค่ะ คนเริ่มทะยอยมามากขึ้น ส่วนใหญ่มาประมาณกันที่ 5-10 ห้องเลยค่ะ มีรายหนึ่งเตรียมซองมา 30 ซองสำหรับประมูล 30 ห้อง ห้องประมูลมีอยู่ 37 ห้อง คุณพี่เค้าคงกะจะเหมาทั้งหมดอะค่ะ ถ้าได้หมดนี้คงต้องมีเงินสดในมือไม่ต่ำกว่า 15 ล้านเป็นแน่แท้

ภาพบรรยากาศตอนลงทะเบียนค่ะ



กว่าจะเสร็จสิ้นการหย่อนกล่องก็ประมาณเกือบๆ บ่ายสามค่ะ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เข้ามารุมมาตุ้ม เพื่อคัดแยกซองเป็นตึกๆ ไป และเริ่มประกาศราคาเสนอซื้อแต่ล่ะห้องค่ะ ห้องโซน C นี่ฮ๊อตมาก บางห้องมีผู้เข้าร่วมประมูลถึง 20 กว่ารายค่ะ สำหรับห้องที่หมีพูประมูล มีผู้เข้าร่วมประมูล 7 รายค่ะ แน่นอนค่ะ หมีพูสู้ราคาไม่ได้ค่ะ เพราะราคาคนที่ได้ไปสูงกว่าราคาเริ่มต้นถึง 5 หมื่นบาทเลยทีเดียว

ในการประมูลหมีพูว่าก็ดูโปร่งใสดีนะ เจ้าหน้าที่ใช้โปรเจคเตอร์โชว์ราคาเสนอซื้อของผู้เข้าประมูลทุกคนเลยค่ะ เห็นหมดว่าใครเสนอราคาเท่าไรกันบ้าง ซึ่งคนที่ได้ไปก็จะมีชื่อค่อนข้างซ้ำๆ กันค่ะ ชื่อเดี่ยวๆ มีไม่กี่ห้องค่ะ คนข้างๆ หมีพูประมูลได้ T1 หันมาถามว่า ตึก T1.นี่อยู่ตรงไหน 555 หมีพูเป็นงง นี่คุณพี่มาประมูลโดยไม่รู้ว่าตึกไหนอยู่ตรงไหนเลยเหรอเนี้ย แต่กลับรู้ว่าเค้าจะมีการประมูลห้องป๊อปกันวันนี้อะนะ ก็เลยบอกเค้าไปว่า T1 อยู่ติดกับโรงเรียนเซนต์ฟรัง เค้าก็ซักถามใหญ่ แล้วก็ขอเบอร์ไปเผื่อจะปรึกษาเรื่องรีโนเวตห้อง

ต้องบอกว่า หลายคนที่มาประมูล เรียกว่าเป็นเจ้าพ่อ เจ้าแม่ เมืองทองก็ว่าได้ เพราะมีห้องให้เช่าทั้งรายวัน รายเดือนกันตรึม พี่หมวย ที่เป็นนายหน้าขายห้องให้หมีพูก็มาประมูล ได้ไป 1 ห้อง ดูพี่เค้าก็ยินดีล่ะ คุณลุงที่หมีพูเคยเห็นไปประมูลห้องป๊อปที่กรมบังคับคดีก็มาประมูลที่บสกด้วยนะ แต่ไม่รู้ว่าได้ไปกี่ห้องค่ะ สรุปคนที่มาประมูลส่วนใหญ่ก็นักลงทุนทั้งนั้น บ้างก็ซื้อไปปล่อยเช่า รายวัน รายเดือน บ้างก็ซื้อไปปรับปรุงแล้วขาย แต่หมีพูว่าราคาที่ประมูลกันไปนี่มันสูงมากอะ (เพราะห้องเป็นห้องร้าง ก็ต้องเผื่อ งปรีโนเวตอีกเกือบแสนต่อห้องด้วย). เอาผลการประมูลมาให้ดูด้วยค่ะ ตัวหนังสือขวามือคือราคาที่มีผู้ประมูลได้ค่ะ



พอมาดูการประมูลในวันนี้ ถึงแม้หมีพูจะไม่ได้ห้อง แต่อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ว่า ถ้าอนาคต หมีพูอยากจะเลิกกิจการ คอนโดให้เช่า หมีพูจะเอาห้องป๊อปมาประมูลขายแบบนี้บ้าง ราคาน่าจะดีทีเดียว

สำหรับท่านที่ยังไม่รู้จักป๊อปปูล่าคอนโดเมืองทอง หมีพูเคยรีวิวไว้ค่ะ แต่เสียงตอบรับจากการรีวิวไม่ค่อยดีเลย ก็เลยเป็นที่มาว่า ทำไม ถ้ามันไม่ดี ถึงมีคนอยากซื้อมากมายขนาดนี้ น่าสงสัยกันไหมค่ะ?

Buy property: ขอให้เครดิต http://pantip.com/topic/32764978 ครับ

แก้โรคซึมเศร้าด้วยการ“ปลูกผักคนเมือง”

แก้โรคซึมเศร้าด้วยการ“ปลูกผักคนเมือง”


แก้โรคซึมเศร้าด้วยการ“ปลูกผักคนเมือง”
ปัจจุบันนี้สังคมไทยเผชิญกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้ามากขึ้น บางครอบครัวมีทั้งผู้ป่วยที่รู้ตัวและไม่รู้ตัวว่าเป็น เพราะโรคซึมเศร้ามาจาก 2 สาเหตุหลักคือ จากพันธุกรรม และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมหรือปัจจัยทางอารมณ์ ซึ่งเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางอารมณ์ทั้งจากครอบครัว สังคม สภาพแวดล้อม และเศรษฐกิจ สำหรับหนึ่งในวิธีการรักษาคือ “การปลูกผัก ทำสวน และใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ” เพราะ การทำสวนเป็นกิจกรรมที่สามารถทำทีละเล็ก ละน้อย ตามกำลังและจังหวะชีวิตตัวเองได้ ที่สำคัญยังทำให้ได้พบปะกับผู้คนมากหน้าหลายตาและมีโอกาสพบสิ่งใหม่ๆ เสมอ ส่งผลทำให้เรามีชีวิตชีวามากขึ้น รวมถึงคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย
แต่หลายคนที่มีชีวิตอยู่ในเมืองอาจสงสัยว่า “แล้วเราจะเอาพื้นที่จากไหนไปปลูกผักทำสวนล่ะ” ไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะเราได้นำผักที่เหมาะกับคนเมืองและวิธีการปลูกผักที่เหมาะสำหรับคนเมืองมาให้ดูกันแล้ว
Flower
  • ปลูกพืชผักสวนครัวต่างๆ ที่มีอายุสั้น เหมาะสำหรับวิถีชีวิตคนเมือง ที่สำคัญปลูกได้ในพื้นที่จำกัด อาทิ ผักชี ต้นหอม กะเพรา โหระพา ผักบุ้งจีน และพืชตระกูลถั่วต่าง
Green
  • ปลูกพืชให้มีความหลากหลาย อาทิ สมุนไพร ดอกไม้ เพราะดอกไม้บางชนิดก็สามารถไล่แมลงได้
วิธีการปลูกผักที่เหมาะสำหรับคนเมือง
  • การปลูกพืชแนวตั้ง เป็นการช่วยประหยัดพื้นที่ เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่คอนโด
  • นำเปลือกไข่ที่ไม่ใช้แล้วมาเพาะกล้า
  • นำเศษอาหารไปทำปุ๋ยหมัก

เครดิต: http://www.ddproperty.com/

EP.1 สอนทำนายหน้าขายบ้าน ขายอสังหาฯ แบบไม่กัก อยากเริ่มทำอาชีพนายหน้าขายบ้าน สอนขายบ้าน

  สอนทำนายหน้าขายบ้าน ขายอสังหาฯ แบบไม่กัก อยากเริ่มทำอาชีพนายหน้าขายบ้าน EP.1 สอนทำนายหน้าขายบ้าน ขายอสังหาฯ แบบไม่กัก อยากเริ่มทำอาชีพนายห...